ฉันเดินตัวปลิวเข้าไปในโรงเรียน วันนี้วันที่สอง เจอใครต่อใครที่เมื่อวานไม่เห็นหน้า แต่วันนี้ทักฉันกันถ้วนหน้า "มาเรียนแต่งหน้า ?" เป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์มากหากไม่เคยศึกษาวิชาชุมชนศึกษาหรือมานุษยวิทยามาก่อน
ที่โต๊ะตัวเมื่อวานมีพี่สาวนั่งวาดคิ้วลงกระดาษอยู่ก่อนแล้ว ฉันทำเนียนเข้าไปตีสนิท เขาไ่ม่สนิทด้วย แต่โต๊ะมันแคบยังไงก็ต้องนั่งด้วยกัน ที่จริงเขาอาจเซ็งที่ฉันไปเรียกเขาว่าพี่ เพราะจริงๆ แล้วฉันเป็นนักเรียนที่สูงวัยที่สุดแล้วตรงนั้น สำหรับสังคมที่อายุ 28 ต้องพูดว่า "ตั้ง 28 แล้ว" พร้อมทำท่าเจียมตัว พวกเลข 3 นำหน้ากรุณาสงบปากสงบคำ...
น้องกาญจน์คนที่เจอเมื่อวานได้ทำการ ปะ ฉะ ดะ กับอาจารย์สาคูตอนฉันนั่งวาดคิ้วจอมยุทธ์วันก่อนหน้า ฉันเองนึกว่าเขาคุยกัน วันนี้อาจารย์เข้ามาถึงก็เปิดฉากถล่มน้องกาญจน์ให้ผู้สูงวัยทั้งสองฟังก่อน พอน้องมาก็ซัดอีกรอบ น้องกาญจน์นิ่ง...ตบแป้ง...
พี่นันทน์ นั่งข้างๆ กัน วาดคิ้วโก่งจัด พอเสร็จ 1 หน้า อาจารย์เดินมาตรวจแล้วบอกให้เติมวงกลมตรงกลางระหว่างคิ้วซ้าย-ขวา "ถ้าเติมหูก็เป็นค้างคาว หรือเธอจะให้เป็นนกก็เลือกเอา..." พี่นันทน์ก็นิ่ง...วาดต่อ...
วาดไป คุยไป ดูอาจารย์แต่งหน้าน้องกาญจน์ไป อาจารย์สอนทำผมคนอื่นๆ ก็เข้ามาดูด้วย ฉันคิด(ไปเอง)ว่าจริงๆ มาดูฉันหรือเปล่า(วะ) เพราะหน้าแปลกและเกือบถูกเฉดไปเมื่อวานเนื่องจากใส่แว่น = สายตาสั้น = มองหน้าตัวเองไม่เห็นเวลาแต่ง นอกจากนี้ยังอ้วนล่ำผิดมาตรฐานความงามทั้งปวงอีกด้วย
พอจ่อมอยู่ซักพักก็เริ่มเข้าถึงความสบายของโรงเรียนเสริมสวย เพราะบรรยากาศมันเหมือนหมู่บ้าน ที่พวกผู้หญิงมารวมตัวกัน คุยกันสัพเพเหระ พร้อมกับฝึกทำอะไรบางอย่างไปด้วย การถ่ายทอดแบบนี้ไม่เหมือนห้องเรียน แต่เหมือนเวลาแม่ ป้า น้า ยายสอนทอผ้า ถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวบ้าน จะยกตัวอย่างบทสนทนา เช่น หนีบจมูก (แต่งสันจมูก) เหมือนคันนาแถก (* อาจเขียนไม่ถูกนะ แต่มันแปลว่า คันนาที่แคบจนเดินไม่ได้) เป็นต้น
ไม่ใช่แค่คำพูด แต่บรรยากาศโดยรวม วิธีที่สอน และความสัมพันธ์ระหว่างกัน...บ้านมาก...อารมณ์เดียวกับตอนฉันนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านป้าทองคำแล้วหัดปั้นเม็ดขนุนกับคุณยายเอียดในวันเตรียมงานแต่งลูกสาวป้าทองคำ...ประมาณนั้นเลย...
วันนี้ฉันเลยเข้าใจขึ้นมานิดนึงว่าทำไมสาวๆ ชาวบ้านของไทยจึงชอบเรียนเสริมสวยกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ...
โรงเรียนเสริมสวยสามารถตอบโจทย์การศึกษาไทยได้หลายข้อทีเีดียว เข้าข่ายมหา' ลัยชีวิตอยู่เหมือนกัน ถ้าคิดจะวิจัยจริงจังละก็จะสนุกใช้ได้ ฉันยังไม่เคยเห็นชุมชนในกรุงเทพฯ ที่จะไทยแสนไทยได้อย่างนี้...จำลองชีวิตชนบทไทยเข้ามาสร้างใหม่แบบเดียวกันเปรี๊ยะ...
เว็บ Jeban บอกว่า Makeup is magic ... ฉันก็...ยังไงไม่รู้...วันนี้กลับบ้านลั้นลามีความสุข...
เป็นครั้งแรก เหมือนไม่เคยอกหักมาก่อนเลย
ของอย่างนี้เขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่เนอะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น