6.12.51

นารีรักบุหรี่ ซิการ์และยาเส้น

เนื่องจากหล่อน(นารี- ชื่อบล็อก) ชอบสูบ tobacco ก็เลยไปค้นคว้าเรื่องยาเส้นเล็กน้อย เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ แล้วมาประกอบกับประสบการณ์ การสูบแบบครึ่งๆ กลางๆ ของหล่อน
ในบทความแนะนำตัวว่าหล่อนเป็นใคร หล่อนคิดจะทำอะไรกันแน่? ในคราวที่แล้ว อาจมีผู้คิดว่าหล่อนเป็นคนมีและสะสมของมีค่าราคาแพง กรุณากลับไปอ่านอีกครั้งว่านั่นเป็นลักษณะของราศี ไม่ใช่ว่าหล่อนมีสิ่งดังกล่าว เพราะฉะนั้น เราจะมาเคลิบเคลิ้มกับของหาง่ายใกล้ๆตัว

การสูบบุหรี่สมัยนี้เป็นเรื่องยากลำบาก ร้านรวง มหา'ลัย ต่างพร้อมใจกันติดป้ายห้ามสูบ แม้แต่หน้าส้วมในปั๊มน้ำมัน นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังทำให้ความอยากกินต้มเครื่องในลดลง เพราะหน้าซองมักติดสติกเกอร์ปอดตับนานาเพื่อให้คนขยะแขยง ลดยอดขาย อะไรก็ว่าไป...การติดสติ๊กเกอร์ปอดตับต่างๆเหล่านี้ ยังได้ลุกลามมายังกล่องซิการ์ ที่นำเข้าอีกด้วย อย่างดีก็เลือกอันที่เป็นฟันเน่าๆ หรือรดน้ำศพแทน แต่เราไปซื้อทีไรเจอแต่ปอดทุกที สงสัยคนนิยม...

แต่นั่นเป็นปัญหาเชิงเทคนิค ถ้าจะให้ดีก็ควรสูบที่บ้าน ในห้องนอน ตามระเบียง หรือที่ที่แม่ไม่เห็น เป็นต้น ถ้าแม่หรือพ่อดุมาก หรือน้องชาย น้องสาว สนใจเรื่องของเรามาก กรุณาล็อกห้องให้ดีก่อนจุดไฟ เพราะควันแห่งความเคลิบเคลิ้มจะฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ คนเหล่านั้นจะเดินตามกลิ่นมาได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าเป็นคนข้างห้องที่อพาร์ทเม้นต์ไม่เป็นไร มีสองทาง แบ่งให้มวนนึง หรือพ่นควันใส่หน้า..พู่ห์ เขาจะเลิกตอแยไปเอง

กล่าวโดยสรุปคือเราเลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว แต่อยากแบ่งปันเล็กน้อยพอเป็นกำลังใจ เราเริ่มสูบบุหรี่ตอนอายุ 20 คุณตาเราเริ่มตอนอายุ 12 คุณพ่อเราเริ่มตอนอายุประมาณ 15 (ไม่แน่ใจ) ตอนนี้เราก็เดินทางมาไกลจากตอนที่เริ่มมากแล้ว และเราไม่เคยขัดขวางใครไม่ให้สูบบุหรี่ ขณะเดียวกันก็ไม่เคยชวนใครให้เริ่มสูบด้วย ที่น่าแปลกก็คือ พอเริ่มสูบคนรอบๆ ก็รับไปมวนนึงทุกคนเลย...ประมาณว่า เลิกแล้ว แต่สูบเป็นเพื่อนก้อด้าย...คุณตาของเราเสียตอนอายุ 69 แน่นอนว่าเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ตอนอายุ 68 คุณตาเข้าโรงพยาบาล หมอขู่ว่าถ้ากลับไปบ้านแล้วสูบบุหรี่อีก คราวนี้หมอจะไม่รักษาให้แล้ว คนที่อยู่กับคุณตาตอนนั้นเล่าให้ฟังว่า คุณตามองหน้าหมอแล้วก็เฉยๆ (อาจยักไหล่เล็กน้อย) กลับมาถึงบ้านก็จุดบุหรี่สูบตามปกติจนถึงอายุ 69 ปี ก็ลาโลกไปไม่สนใจหมอซักนิด คุณพ่อถูกประณามเลยเลิกไปตั้งแต่ยังหนุ่ม น่าเสียดายมาก คุณตาเป็น idol เรื่องการสูบบุหรี่ของเรา เพราะแอบสูบบุหรี่ที่จุดทิ้งไว้ของคุณตาตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง เพราะฉะนั้นการสูบบุหรี่นั้นก็ไม่มีอะไร เห็นเขาทำก็ทำบ้าง ทำเพื่อผ่อนคลาย หลังจากเริ่มสูบบุหรี่หลายปี ได้รู้จักชาวเขาชาวดอย รักกันรักกัน เขาทำหม้อยา หรือ pipe ให้หนึ่งอัน ก็เลยสูบเพื่อความเคลิบเคลิ้ม ชีวิตก็เคลิบเคลิ้มมาตามลำดับ

มีเรื่องอยากเล่าเกี่ยวกับ pipe ยาเส้น หรือ tobacco และ ซิการ์ให้ฟัง และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สิ่งที่คลั่งไคล้อยู่ตอนนี้ แล้วจะเข้ามาเขียนใหม่

นารี (ชอบ) สูบบุหรี่

nari jia baroei หรือ นารี เจีย บาเรย เป็นประโยคที่เราเรียนในชั่วโมงภาษาเขมร แปลว่า ผู้หญิงสูบบุหรี่
รู้สึกชอบประโยคนี้ เพราะตรงชีวิต เลยใช้เป็นชื่อบล็อก
อย่างไรก็ตาม เราตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่แล้ว เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ
เราเลยสูบแค่ซิการ์ กับไปป์แทน... เพราะฉะนั้น บล็อกนี้ก็เลยอุทิศให้ควันจางๆ ของการใช้เวลาในยามว่างอย่างเคลิบเคลิ้ม...

จะเห็นได้ว่าบล็อกนี้เชื่อมโยง เป็นเจ้าของเดียวกันกับเว็บที่ชวนเด็กน้อยอ่านหนังสือ เรานับว่ามันเป็นการใช้เวลาว่างอย่างเคลิบเคลิ้มอย่างหนึ่งของเด็กเหมือนกัน แต่เมื่ออ่านหนังสือที่ผู้ใหญ่เคลิบเคลิ้ม ไม่สามารถแนะนำให้เด็กน้อยอ่านได้ คงต้องหนีมาเล่าที่อื่น เพราะไม่อยากถูกด่าว่าไม่ส่งเสริมศีลธรรมอันดีของเยาวชน
ไม่ได้แดกดันใครเรื่องส่งเสริมศีลธรรมอันดี บลา บลา บลา อย่างที่คนสมัยนี้เขาแดกดันกันแล้วเห็นเป็นเก๋ เนื่องจากเรานิยมความเก๋ประดับด้วยศีลธรรมอันดีมากกว่า แล้วมันก็ยากกว่าเก๋ไก๋ไร้ศีลธรรมแบบชาว HIP ผิดที่ผิดทางสมัยนี้เขานิยมกันด้วย

เราเป็นคนราศีพฤษภบ้าง กันย์บ้าง แล้วแต่หมอดูคนไหน แต่ไปเช็คราศีดูแล้วพบว่าตรงกับข้อการนิยมใช้ของหรูหรา ฟุ่มเฟือย มีศิลปะ และมักคิดว่าตนเองมีรสนิยมอันดี (คิดไปเอง...ฟันธง) คือจริงๆ ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ใครบอกว่าอะไรมีรสนิยมก็จะสนใจมากทีเดียว เวลาทุกข์โศกก็จะดูงานศิลปะที่สะสมไว้ เอาทรัพย์สมบัติมีค่ามาเชยชม กระทำการอันมีรสนิยมเช่น ดื่มกินของมีรสนิยม เล่นหรือฟังดนตรีมีรสนิยม สูบของที่มีรสนิยม หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ซิการ์และไปป์ สูบกัญชาบางที ถ้าหาได้ เอ๊ย..ไม่ใช่ ถ้ามีคนให้ฟรี เอ๊ย...ไม่ใช่อีกแล้ว ไม่สูบ... แล้วคนราศีนี้ก็จะหายทุกข์โศก และนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไร เป็นคนจืดชืดสิ้นดี ดังนั้น ของที่ทำให้เราหายทุกข์โศกได้ ถ้าได้นำมาคุยแบ่งปันกับคนอื่น อาจทำให้ลดความทุกข์โศกของชาวโลกประเภทเดียวกับเราได้มากขึ้น

อย่ากระนั้นเลย มาใช้เวลาในยามว่างและยามทุกข์โศกอย่างเคลิบเคลิ้มไปด้วยกันดีกว่า...